บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมงาน TELECOMS WORLD ASIA 2023 ชูความพร้อมในการเป็น SUBMARINE CABLE PROVIDER อันดับหนึ่งในประเทศไทย หนุนความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเชื่อมโยงโครงข่ายสื่อสารทั้งในและระหว่างประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของไทย โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวกัลยา ชินาธิวร ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกล่าวถึงความพร้อมของประเทศไทยสู่การเป็น ASEAN DIGITAL HUB ณ ห้องคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
นางสาวกัลยา ชินาธิวร ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่มุ่งยกระดับการเชื่อมโยงเครือข่ายสื่อสารทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งได้ขยายเส้นทางเคเบิ้ลใต้น้ำที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค โดยได้ผลักดันผ่านโครงการ Digital Thailand เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศในทุกมิติ อาทิ โครงการเน็ตประชารัฐ โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงที่ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ 75,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ โครงการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของชุมชนต่างๆ รวมกว่า 8,246 ชุมชน รวมถึงแผนงานโครงการลงทุนและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ด้วยโครงการนำร่องต่าง ๆ ในพื้นที่ด้านการเกษตร สาธารณสุข การผลิต การขนส่ง เมืองอัจฉริยะ การท่องเที่ยว และการศึกษา
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น ASEAN Digital Hub จึงได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสและดึงดูดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรรมจากทั่วโลกอาทิ การขยายความจุของโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ การสร้างเคเบิลใต้น้ำเส้นใหม่ ASIA Direct Cable หรือ ADC ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีปริมาณความจุและเส้นทางเชื่อมโยงผ่านระบบเคเบิลใต้น้ำที่รองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้โครงข่ายระหว่างประเทศของไทย มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพมากขึ้น
ด้าน นายอานุภาพ ลุจนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสัญญาณ 1 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ได้ขึ้นกล่าวบรรยายในหัวข้อ “Efficient Connectivity and Submarine Cable Systems” ว่า “บริษัท โทรคมคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มีความแข็งแกร่งและมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศไทย และการเชื่อมโยงโครงข่ายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่มีเสถียรภาพ ด้วยศักยภาพของโครงข่ายการเชื่อมต่อที่พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าทุกประเภท ด้วยแบนด์วิทด์ที่มีความจุขนาดใหญ่ในระดับ 100G-800G ทำให้ส่งผ่านสัญญาณใน 1 คู่ไฟเบอร์สูงถึง 96T พร้อมระบบมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์และการตรวจสอบอัจฉริยะบนระบบโครงข่าย เชื่อมโยงจากประเทศไทยไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกด้วยระบบเคเบิลใต้น้ำหลากหลายเส้นทาง สู่การเป็น SUBMARINE CABLE PROVIDER อันดับ 1 ของประเทศไทย
ปัจจุบัน NT มีระบบเคเบิลใต้น้ำ 9 ระบบ ได้แก่ SMW3, FLAG, TIS, SMW4, AAG, SJC, APG, AAE1 และล่าสุด ADC (ASIA Direct Cable) ซึ่งเป็นการลงทุนระบบเคเบิลใต้น้ำเส้นใหม่ บนเทคโนโลยีล่าสุด ในระดับ 400 Gbps ต่อ wavelength โดยมีสถานีขึ้นบกของไทยที่สถานีเคเบิลใต้น้ำชลี 3 ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 100 กิโลเมตร พร้อมเชื่อมโยงประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในย่าน CLMV ไปยังปลายทางสำคัญของภูมิภาค อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่า 95% พร้อมให้บริการภายในกลางปี 2567 นี้ และเสริมแกร่งโครงข่ายภายในประเทศและชายแดนประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า 10 จุด โดยครอบคลุมประเทศเมียนมาร์ 4 จุด, ประเทศลาว 3 จุด, ประเทศกัมพูชา 2 จุด และประเทศมาเลเซีย 2 จุด เป็นต้น โดย NT พร้อมดำเนินงานตามแผนการดำเนินโครงการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub) สนับสนุนโครงการ Digital Park ตามนโยบาย EEC (Eastern Economic Corridor) ของประเทศไทย ซึ่งเป็นการวางรากฐานการขับเคลื่อน การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
นอกจากนั้น นางสาวอุบลพรรณ ชื่นชม ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ จาก บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ ยังได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ DIVERSITY, RESILIENCE AND HIGH AVAILABILITY – TO BUILD MORE ROBUST NETWORK INFRASTRUCTURE? เพื่ออัปเดตความพร้อมและการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม
ภายในส่วนจัดแสดงนิทรรศการ NT ได้นำเสนอความพร้อมในการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมจากประเทศไทยไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลกโดยเคเบิลใต้น้ำ 9 เส้นทาง และบริการดิจิทัลโซลูชันต่างๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม ทั้ง Telco, Content provider และ OTTs จำนวนมาก
งาน Telecoms World Asia 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพ นับเป็นการประชุมด้านโทรคมนาคมนานาชาติ ที่สำคัญงานหนึ่งของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ DIGITAL TRANSFORMATION FOR ASIAN TELCOS โดยมีผู้นำด้านโทรคมนาคมและผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชันชั้นนำกว่า 1,000 ราย ให้ความสนใจและเข้าร่วมงานประชุมในครั้งนี้